
หากกล่าวถึงดอกชบาหลายคนคงนึกภาพของเงาะป่าขึ้นมาในหัว ซึ่งภาพที่เราติดตานั้นจะเป็นภาพของเงาะป่าที่สอดดอกชบาสีแดงข้างๆ หูแต่ทราบหรือไม่ว่าดอกชบานั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในพื้นที่เขตร้อนชื้น โดยคาดการณ์ว่าเริ่มต้นการแพร่กระจายครั้งแรกในประเทศอินเดียโดยนำดอกชบามาใช้ประโยชน์ต่างๆ หลังจากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายไปยังประเทศจีน จนมีการเรียกอย่างแพร่หลายว่ากุหลาบจีนหลังจากนั้นก็มีการคิดค้นพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมีทั้งแบบกลีบเดียวจนถึงกลีบซ้อนหลายชั้นแล้วแพร่พันธุ์ไปยังยุโรปต่อไปเมื่อปี พ.ศ. 2221 หลังจากนั้นดอกไม้ชนิดนี้ก็เริ่มแพร่พันธุ์ไปทั่วโลกรวมถึงประเทศของเราด้วย ปัจจุบันเนื่องด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านก็ได้คิดค้นพันธุ์ของชบาออกมาอย่างหลากหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปเหตุผลที่มีการคิดค้นออกมาอย่างหลากหลายนั่นก็เพราะว่า คนส่วนใหญ่นำดอกชบาไปปลูกเป็นไม้ประดับประจำบ้านนั่นเอง
ลักษณะทั่วไปของดอกชบา
ชบามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus rosa-sinensis L. ชื่อวงศ์ว่า Malvaceae ในประเทศไทยของเราแต่ละภาคแต่ละพื้นที่ก็จะมีชื่อเรียก ชบาที่แตกต่างกันออกไป เช่น ดอกผ้า ดอกใหม่ ใหม่แดง ชุมบา ชบาขาว บาชะมา เป็นต้น ลักษณะโดยทั่วไปของชบาคือเป็นพรรณไม้พุ่มลำต้นจะมีความสูงอยู่ประมาณ 6-12 ฟุต แต่โดยส่วนใหญ่เฉลี่ยได้ประมาณ 6-7 ฟุตเท่านั้น ต้นที่มีขนาดถึง 12 ฟุต ค่อนข้างหายากแล้วต้องใช้เวลาในการปลูกรวมถึงการดูแลมากพอสมควรเป็นพืชเนื้ออ่อน แต่เปลือกมีความเหนียวมากชบาเป็นพืชใบเดี่ยวใบมีสีเขียวลักษณะใบจะโตและมน เพราะมีฐานที่กว้างมีความยาวประมาณ 6 – 7 ซม.ความกว้าง 5 – 7 ซม.ในส่วนของปลายใบจะแหลม บริเวณริมใบมีลักษณะเหมือนใบเลื่อยในส่วนของดอกชบาจะเป็นดอกเดี่ยวดอกจะอยู่บริเวณระหว่างใบ ปกติมีกลีบอยู่ 5 กลีบปัจจุบันมีอยู่หลายสีไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีขาว สีเหลือง เป็นต้น บริเวณปลายของดอกจะมนๆ กลมๆ จุดเด่นที่ทำให้ดอกชบามีความสวยงามก็คือ ส่วนเกสรของดอกชบาจะมีก้านที่ยาวยื่นออกมานอกกลางดอก เราสามารถที่จะมองเห็นเกสรตัวผู้ได้ด้วยตาเปล่าตรงบริเวณที่มีสีเหลืองๆ ที่เกาะอยู่อย่างหนาแน่นบนท่อของเกสรส่วนเกสรตัวมีจะอยู่ปลายสุดของก้านดอก
วิธีดูปลูก ดูแลดอกชบา
ชบาถือว่าเป็นพืชที่ปลูกง่ายพอสมควรไม่ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิดมากเท่าไรนัก ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนซุยที่สามารถระบายน้ำได้ดีนำมาผสมกับดินร่วน ขี้เถ้าแกลบ กากมะพร้าวสับ ปุ๋ยคอก โดยใช้อัตราส่วนที่เท่าๆ กันในส่วนของการให้น้ำนั้นถ้าหากว่าปลูกในฤดูฝนก็ไม่ต้องให้น้ำบ่อยนัก หรือถ้าปลูกในฤดูร้อนแล้วรู้สึกว่าดินค่อนข้างแห้ง ก็สามารถที่จะรดน้ำได้ในปริมาณที่พอเหมาะโดยให้น้ำวันละ 1 ครั้งเท่านั้น พยายามอย่าให้น้ำขังหรือดินแฉะมากพยายามพรวนดินรอบๆ เรื่อยๆ ใส่ปุ๋ยบ้างบางครั้งบางคราวในส่วนของการขยายพันธุ์ชบาสามารถที่จะใช้วิธีการปักชำได้และเสียบยอดได้